ประธานกล่าวนำว่า อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ,(กราบ) สวากขาโตภะคะวะตา ธัมโม,ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ.(กราบ)
ปุพพภาคนมการ (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความนอบน้อมอันเป็นส่วนเบื้องต้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ.
(กล่าว ๓ ครั้ง) พุทธานุสสติ (หันทะ มะยัง พุทธานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความตามระลึกถึงพระพุทธเจ้าเถิด ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัล๎ยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต,อิติปิ โส ภะคะวา,อะระหัง,สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน,สุคะโต,โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ,สัตถา เทวะมะนุสสานัง,พุทโธ,ภะคะวา ติ.
พุทธาภิคีติ (หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความขับคาถา พรรณนาเฉพาะพระพุทธเจ้าเถิด พุทธ๎ะวาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต, สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต, โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร,วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง, พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง, พุทธัสสาหัส๎มิ ทาโสวะ (ทาสีวะ), พุทโธ เม สามิกิสสะโร, พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, วันทันโตหัง (วันทันตีหัง) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า จะริสสามิ,พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง, นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, พุทโธ เม สะระณัง วะรัง,เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน, พุทธัง เม วันทะมาเนนะ (วันทะมานายะ), คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่ายัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ, สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา. (หมอบกราบ) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, พุทโธ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ.
ธัมมานุสสติ (หันทะ มะยัง ธัมมานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความตามระลึกถึงพระธรรมเถิด ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก,อะกาลิโก,เอหิปัสสิโก,โอปะนะยิโก, ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี*ติ. *ศัพท์ที่มีคำว่า - หี ทุกแห่งให้ออกเสียงว่า - ฮี
ธัมมาภิคีติ (หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความขับคาถา พรรณนาเฉพาะพระธรรมเถิด ส๎วากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย, โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท, ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี, วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง, ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง, ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง, ธัมมัสสาหัส๎มิ ทาโสวะ (ทาสีวะ), สำหรับผู้หญิงว่า ธัมโม เม สามิกิสสะโร, ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม, ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, วันทันโตหัง (วันทันตีหัง) สำหรับผู้หญิงว่าจะริสสามิ, ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง, นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, ธัมโม เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ, วัฑเฒยยัง สัตถุสาสะเน, ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ (วันทะมานายะ),ผู้หญิงว่า ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ, สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
(หมอบกราบ) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, ธัมโม ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม.
สังฆานุสสติ (หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความตามระลึกถึงพระสงฆ์เถิด สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง, จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย, ปาหุเนยโย,ทักขิเณยโย,อัญชะลิกะระณีโย,อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา ติ.
สังฆาภิคีติ (หันทะ มะยัง สังฆาภิคีติง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความขับคาถา พรรณนาเฉพาะพระสงฆ์เถิด สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต, โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฏโฐ, สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต, วันทามะหัง ตะมะริยานะ คะณัง สุสุทธัง, สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง, ตะติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง, สังฆัสสาหัส๎มิ ทาโสวะ (ทาสีวะ), ผู้หญิงว่าสังโฆ เม สามิกิสสะโร, สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม, สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง, วันทันโตหัง (วันทันตีหัง) ผู้หญิงว่า จะริสสามิ, สังฆัสโสปะฏิปันนะตัง, นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง, สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ, วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน, สังฆัง เม วันทะมาเนนะ (วันทะมานายะ),ผู้หญิงว่า ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ, สัพเพปิ อันตะรายา เม, มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา.
(หมอบกราบ) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา, สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง, สังโฆ ปะฏิคคัณ๎หะตุ อัจจะยันตัง, กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.
(จบคำทำวัตรเย็น) บทสวดมนต์ประจำวันแรม/ขึ้น๑๓ ค่ำ ปุพพภาคนมการ (หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย ทำความนอบน้อมอันเป็นส่วนเบื้องต้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ.
(กล่าว ๓ ครั้ง) (หันทะ มะยัง ติสะระณะคะมะนะปาฐัง ภนา มะ เส)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณิง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ บทสวดมนต์ประจำวันแรม ๑๓ ค่ำ ขึ้น ๑๓ ค่ำมีดังนี้ อาทิยะสุตตะคาถา
ภุตตา โภคา ภัจจา วิติณณา อาปะทาสุ เม อุทธัคคา ทักขิณา ทินนา อะโถ ปัญจะ พะลี กะตา อุปัฏฐิตา สีละวันโต สัญญะตา พรัหมะจาริโน ยะทัตถัง โภคะมิจเฉยยะ ปัณฑิโต ฆะระมาวะสัง โส เม อัตโถ อะนุปปัตโต กะตัง อะนะนุตาปิยัง เอตัง อะนุสสะรัง มัจโจ อะริยะธัมเม ฐิโต นะโร อิเธวะ นัง ปะสังสันติ เปจจะ สัคเค ปะโมทะตีติ ฯ ทะสะธัมมะสุตตะปาโฐ เอวัมเม สุตัง. เอกัง สะมะยัง ภะคะวา, สาวัตถิยัง วิหะระติ, เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ, อาราเม. ตัตตระโข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ. ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุง. ภะคะวา เอตะทะโวจะ. ทะสะ อิเม ภิกขะเว ธัมมา ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพา. กะตะเม ทะสะ. ๑. เววัณณิยัมหิ อัชฌูปะคะโตติ , ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. ๒. ปะระปะฏิพัทธา เม ชีวิกาติ. ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง ๓. อัญโญ เม อากัปโป กะระณีโยติ, ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. ๔. กัจจิ นุ โข เม อัตตา สีละโต นะ อุปะวะทะตีติ,ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง ๕. กัจจิ นุ โข มัง อะนุวิจจะ วิญญู สะพรัหมะจารี สีละโต นะ อุปะวะทันตีติ. ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. ๖. สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโวติ, ปัพพะชิเตนะ อะภิณหังปัจจะเวกขิตัพพัง ๗. กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปฏิสะระโณ, ยัง กัมมัง กะริสสามิ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามีติ, ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง ๘. กะถัมภูตัสสะ เม รัตตินทิวา วีติปะตันตีติ, ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. ๙. กัจจิ นุ โน เม อุตตะริมะนุสสะธัมมา อะละมะริยะญาณะทัสสะนะวิเสโส อะธิคะโต, โสหัง ปัจฉิเม กาเล สะพรัหมะจารีหิ ปุฏโฐ นะ มังกุ ภะวิสสามีติ, ปัพพะชิเตนะ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. อิเม โข ภิกขะเว ทะสะ ธัมมา ปัพพะชิเตนะ อะภิณหังปัจจะเวกขิตัพพาติ. อิทะมะโวจะ ภะคะวา. อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต ภาสิตัง, อะภินันทุนติ.ฯ ระตะนัตตะยัปปะภาวาภิยาจะนะคาถา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อุตตะมัง ธัมมะมัชฌะคา มะหาสังฆัง ปะโพเธสิ อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง พุทโธ ธัมโม สังโฆ จาติ นานาโหนตัมปิ วัตถุโต อัญญะมัญญาวิโยคา วะ เอกีภูตัมปะนัตถะโต พุทโธ ธัมมัสสะ โพเธตา ธัมโม สังเฆนะ ธาริโต สังโฆ จะ สาวะโก พุทธัสสะ อิจเจกาพัทธะเมวิทัง วิสุทธัง อุตตะมัง เสฏฐัง โลกัสมิง ระตะนัตตะยัง สังวัตตะติ ปะสันนานัง อัตตะโน สุทธิกามินัง สัมมา ปะฏิปัชชันตานัง ปะระมายะ วิสุทธิยา ฯ วิสุทธิ สัพพักเลเสหิ โหติ ทุกเขหิ นิพพุติ นิพพานัง ปะระมัง สุญญัง นิพพานัง ปะระมัง สุขัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สุวัตถิ โหตุ สัพพะทา ฯ ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะเตชะสา อุปัททะวันตะรายา จะ อุปะสัคคา จะ สัพพะโส มา ภะทาจิ สัมผุสิงสุ รัฏฐัง สยามานะเมวิทัง อาโรคิยะสุขัญเจวะ ตะโต ทีฆายุตาปิ จะ ตัพพัตถูนัญจะ สัมปัตโย สุขัง สัพพัตถะ โสตถิ จะ ภะวันตุ สัมปะวัตตันตุ สยามานัง รัฏฐะปาลินัง เต จะ รัฏฐัญจะ รักขันตุ สยามะรัฏฐิกะเทวะตา สยามานัง รัฏฐะปาลีหิ ธัมมามิเสหิ ปูชิตา สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ อิทัง ผะลัง เอตัสมิง ระตะนัตตะยัสมิง สัมปะสาทะนะเจตะโส ฯ สุขาภิยาจะนะคาถา ยัง ยัง เทวะมะนุสสานัง มังคะลัตถายะ ภาสิตัง ตัสสะ ตัสสานุภาเวนะ โหตุ ราชะกุเล สุขัง เย เย อารักขะกา เทวา ตัตถะ ตัตถาธิวาสิโน อิมินา ธัมมะทาเนนะ สัพเพ อัมเหหิ ปูชิตา สะทา ภัทรานิ ปัสสันตุ สุขิตา โหนตุ นิพภะยา อัปปะมัตตา จะ อัมเหสุ สัพเพ รักขันตุ โน สะทา ยัญจะ โน ภาสะมาเนหิ กุสะลัง ปะสุตัง พะหุง ตันโน เทวานุโมทันตุ จิรัง ติฏฐันตุ สาตะตัง เย วา ชะลาพุชัณฑะชา สังเสทะโชะปาติกา อะเวรา โหนตุ สัพเพ เต อะนีฆา นิรุปัททะวา ปัสสันตุ อะนะวัชชานิ มา จะ สาวัชชะมาคะมา จิรัง ติฏฐะตุ โลกัสมิง สัมมาสัมพุทธะสาสะนัง ทัสเสนตัง โสตะวันตูนัง มัคคัง สัตตะวิสุทธิยา ยาวะ พุทโธติ นามัมปิ โลกะเชฏฐัสสะ สัตถุโน สัมมาเทสิตะธัมมัสสะ ปะวัตตะติ มะเหสิโน ปะสันนา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน พุทธะสาสะเน สัมมา ธารัง ปะเวจฉันโต กาเล เทโว ปะวัสสะตุ วุฑฒิภาวายะ สัตตานัง สะมิทธัง เนตุ เมทะนิง มาตา ปิตา จะ อัตระชัง นิจจัง รักขันติ ปุตตะกัง เอวัง ธัมเมนะ ราชาโน ปะชัง รักขันตุ สัพพะทา ฯ จบบทสวดมนต์ประจำแรม/ขึ้น ๑๓ค่ำแต่เพียงเท่านี้ สวดมนต์ดังต่อไปนี้อีกทุกวันดังนี้ อะตีตะปัจจะเวกขะณะวิธี (นำ) หันทะ มะยัง อะตีตะปัจจะเวกขะณะ ปาฐัง ภะณามะ เส ฯ (รับ) อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา ยัง จีวะรัง ปะริภุตตัง, ตัง ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ, อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ, ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, ยาวะ- เทวะ หิริโกปินะปะฏิจฉาทะนัตถัง ฯ อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา โย ปิณฑะปาโต ปะริภุตโต, โส เนวะ ทวายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ, ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ยาปะนายะ วิหิงสุปะระติยา พรัหมะจะริยานุคคะหายะ, อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ, ยาตรา จะ เม ภะวัสสะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสุวิหาโร จาติ ฯ อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา ยัง เสนาสะนัง ปะริภุตตัง, ตัง ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ, อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ, ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, ยาวะ- เทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานาารามัตถัง ฯ อัชชะ มะยา อะปัจจะเวกขิตวา โย คิลานะปัจจะยะเภสัช- ชะปะริกขาโร ปะริภุตโต, โส ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิ- กานัง เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ, อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ ฯ สัพพปัตติทานคาถา
(หันทะ มะยัง สัพพะปัตติทานะคาถาโย ภะณามะ เส) เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคำแผ่ส่วนบุญให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายเถิด ปุญญัสสิทานิ กะตัสสะ ยานัญญานิ กะตานิ เม, เตสัญจะ ภาคิโน โหนตุ สัตตานันตาปปะมาณะกา สัตว์ทั้งหลาย ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ, จงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้, และแห่งบุญอื่นที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว เย ปิยา คุณะวันตา จะ มัยหัง มาตาปิตาทะโย, ทิฏฐา เม จาป๎ยะทิฏฐา วา อัญเญ มัชฌัตตะเวริโน คือจะเป็นสัตว์เหล่าใด, ซึ่งเป็นที่รักใคร่และมีบุญคุณ, เช่นมารดาบิดาของข้าพเจ้าเป็นต้น ก็ดี ที่ข้าพเจ้าเห็นแล้วหรือไม่ได้เห็นก็ดี, สัตว์เหล่าอื่นที่เป็นกลางๆหรือเป็นคู่เวรกัน ก็ดี สัตตา ติฏฐันติ โลกัส๎มิง เตภุมมา จะตุโยนิกา, ปัญเจกะจะตุโวการา สังสะรันตา ภะวาภะเว สัตว์ทั้งหลายตั้งอยู่ในโลก, อยู่ในภูมิทั้งสาม, อยู่ในกำเนิดทั้งสี่, มีขันธ์ห้าขันธ์ มีขันธ์ขันธ์เดียว มีขันธ์สี่ขันธ์, กำลังท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ ก็ดี ญาตัง เย ปัตติทานัมเม อะนุโมทันตุ เต สะยัง, เย จิมัง นัปปะชานันติ เทวา เตสัง นิเวทะยุง, สัตว์เหล่าใด รู้ส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด, ส่วนสัตว์เหล่าใดยังไม่รู้ส่วนบุญนี้, ขอเทวดาทั้งหลาย, จงบอกสัตว์เหล่านั้นให้รู้ มะยา ทินนานะ ปุญญานัง อะนุโมทะนะเหตุนา, สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน, เขมัปปะทัญจะ ปัปโปนตุ เตสาสา สิชฌะตัง สุภา เพราะเหตุที่ได้อนุโมทนาส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง, จงเป็นผู้ไม่มีเวร, อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ, จงถึงบทอันเกษม, กล่าวคือพระนิพพาน, ความปรารถนาที่ดีงามของสัตว์เหล่านั้นจงสำเร็จเถิด อภิณหปัจจเวกขณปาฐะ (หันทะ มะยัง อะภิณหะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส) เชิญเถิดเราทั้งหลาย มาสวดอภิณหปัจจเวกขณะปาฐะกันเถิด ชะราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต (อะนะตีตา) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดาจะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้ พ๎ยาธิธัมโมมหิ พ๎ยาธิง อะนะตีโต (อะนะตีตา) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้ มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต (อะนะตีตา) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า เรามีความตายเป็นธรรมดาจะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้ สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว เราจะละเว้นเป็นต่างๆ, คือว่าจะต้องพลัดพรากจากของรักของเจริญใจทั้งหลายทั้งปวง กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระโณ (ณา) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า เราเป็นผู้มีกรรมเป็นของๆตน, มีกรรมเป็นผู้ให้ผล, มีกรรมเป็นแดนเกิด, มีกรรมเป็นผู้ติดตาม, มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ยัง กัมมัง กะริสสามิ, กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาโท (ทา) คำในวงเล็บสำหรับผู้หญิงว่า ภะวิสสาม เราทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป, เราจะเป็นทายาท, คือว่าเราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป เอวัง อัมเหหิ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง เราทั้งหลายควรพิจารณาอย่างนี้ทุกวันๆ เถิด คำแผ่เมตตา
(หันทะ มะยัง เมตตาผะระณัง กะโรมะ เส) อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข นิททุกโข โหมิ จงเป็นผู้ไร้ทุกข์ อะเวโร โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีเวร อัพฺยาปัชโฌ โหมิ (อ่านว่า อับ-พะ-ยา) จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน อะนีโฆ โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ จงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ถึงความสุข สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร สัพเพ สัตตา อัพฺยาปัชฌา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์ สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากทุกข์ทั้งมวล สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้พรากจากสมบัติอันตนได้แล้ว สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน, มีกรรมเป็นผู้ให้ผล, มีกรรมเป็นแดนเกิด, มีกรรมเป็นผู้ติดตาม,มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศ้ย ยัง กัมมัง กะรัสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาทา ภาวิสสันติ จักทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป, จักต้องเป็นผู้ได้รับผลกรรมนั้นๆ สืบไป ปัตติทานะคาถา (นำ) หันทะ มะยัง ปัตติทานะ คาถา โย ภะณามะ เส ฯ (รับ) ยา เทวะตา สันติ วิหาระวาสินี ถูเป ฆะเร โพธิฆะเร ตะหิง ตะหิง ตา ธัมมะทาเนนะ ภะวันเต ปูชิตา โสตถิง กะโรนเตธะ วิหาระมัณฑะเล เถรา จะ มัชฌา นะวะกา จะ ภิกขะโว สารามิกา ทานะปะตี อุปาสะกา คามา จะ เทสา นิคะมา จะ อิสสะรา สัปปาณะภูตา สุขิตา ภะวันตุ เต ชะลาพุชา เยปิ จะ อัณฑะสัมภะวา สังเสทะชาตา อะถะโวปะปาติกา นิยยานิกัง ธัมมะวะรัง ปะฏิจจะ เต สัพเพปิ ทุกขัสสะ กะโรนตุ สังขะยัง ฯ ฐาตุ จิรัง สะตัง ธัมโม ธัมมัทธะรา จะ ปุคคะลา สังโฆ โหตุ สะมัคโค วะ อัตถายะ จะ หิตายะ จะ อัมเห รักขะตุ สัมธัมโม สัพเพปิ ธัมมะจาริโน วุฑฒิง สัมปาปุเณยยามะ ธัมเม อะริยัปปะเวทิเต ฯ ::จบบริบูรณ์สำหรับสวดมนต์ประจำวันแรม ๑๓ ค่ำและวันขึ้น ๑๓ ค่ำ:: ::วันนี้ท่านสวดมนต์ไหว้พระหรือยัง ถ้ายังมาที่:: ::วัดพุทธบล็อกสปอรต์ดอดคอมhttp://watphut.blogspot.com:: |
0 comments :
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น